“มุมมอง”

ทุกคนคงรู้จักเลนส์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายขนาด แต่สิ่งที่ทำให้เลนส์แต่ละขนาดมีความแตกต่างมากที่สุดคือมุมมองของภาพ ซึ่งเรียกเป็นชื่อง่ายๆเช่น เลนส์มุมกว้าง, เลนส์ซูม, เลนส์มาโคร(เลนส์ระยะใกล้) ฯลฯ ผมขอเรียกชื่อเจ้าสามตัวนี้ว่า เจ้ากว้าง เจ้าซูม และเจ้าใกล้ เจ้าเลนส์สามตัวนี้แม้ว่าจะเป็นเพื่อนกันมานมนานและสนิทสนมกัน เพราะมันมักจะถูกเจ้านายพามันไปใช้งานอยู่บ่อยๆทั้งสามตัว แต่พวกมันเองก็ยังถกเถียงกันไม่จบทุกครั้งเวลาเจ้านายของพวกมันพามันออกไปทำงาน เพราะพวกมันคิดว่าตัวเองนั้นเก่งและมีความสามารถพิเศษที่ตัวอื่นไม่มี

วันนึงเจ้านายของพวกมันเดินทางไปยังยอดเขาแห่งหนึ่ง ท่ามกลางทุ่งเขียวขจีที่กว้างสุดลูกหูลูกตา หยดน้ำค้างจากค่ำคืนวานเกาะเต็มปลายยอดของหญ้าที่ไหวไปมาอย่างแผ่วเบา เขาเฝ้ารอเจ้าดวงอาทิตย์ขี้อายกำลังโผล่ขึ้นมาอวดแสงสีของรุ่งอรุณยามเช้าอย่างใจจดใจจ่อ และตอนนั้นเองที่เขาหยิบเอากล้องถ่ายรูปคู่ใจขึ้นมา หมายใจจะเก็บเรื่องราวยามเช้าบนยอดเขาที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามแห่งนี้ เจ้าใกล้ตะโกนพร่างคำโตออกมาจากกระเป๋าว่า นายๆ !! ใช้ผมสิ นายย้อนถามว่า เจ้าใกล้ เจ้าคิดว่าเจ้ามีดีอะไรจึงอยากให้เราเลือกเจ้ามาใช้งาน เจ้าใกล้หยุดเงียบไปครู่นึงแล้วบอกว่า นาย ผมสามารถทำให้นายเห็น ท่วงท่าของหยดน้ำค้างที่วางตัวอยู่บนยอดหญ้าคา ในขณะที่แสงแดดแห่งรุ่งอรุณกำลังส่องผ่านมาได้อย่างชัดเจนจนเห็นประกายเลยนะ นายก็บอกกลับไปว่าอืมดีๆ งั้นเราจะใช้เจ้า เจ้าใกล้ ทั้นใดนั้นเขาก็หยิบเจ้าใกล้ขึ้นมาประกอบกับกล้องคู่ใจของเขาและบรรจงกดชัดเตอร์อย่างตั้งใจ เพื่อที่จะเก็บภาพอันงดงามของหยดน้ำค้างบนยอดหญ้าคา เจ้าใกล้ทำหน้าที่ของมันได้ดี หยดน้ำค้างบนยอดหญ้าคานั้นส่องเป็นประกายเมื่อกระทบกับแสดงแดดยามเช้าก็พลันปรากฎบนหน้าจอ LCD กล้องคู่ใจของเจ้านายของมัน เจ้าใกล้ได้รับคำชมสมใจอยากเพราะมันทำหน้าที่ได้ดี และมันก็ภูมิใจในความสามารถของมัน

ไม่นานนักหมู่นกต่างๆก็เริ่มบินออกหากินตอนเช้า พวกมันบินมากันเป็นฝูงปีกสีขาวอันเบาบางของพวกมันพริ้วไหวสลับกันอย่างเป็นท่วงที พร้อมๆกันไปทั้งฝูง เขารีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายอย่างรวดเร็ว พรึบ !! เจ้าใกล้เจ้ามองเห็นหมู่นกที่กำลังบินออกมานั้นหรือไม่ เขาถามเจ้าใกล้เพราะว่าเขาไม่สามารถเห็นฝูงนกเหล่านั้นได้ผ่านจะทางช่องมองภาพ เจ้าใกล้ตอบว่าผมมองไม่เห็นอะไรเลยครับมันอยู่ไกลไป นายต้องพาผมไปใกล้ๆแล้วล่ะ เจ้าใกล้ตอบกลับมา แต่ทันใดนั้นเจ้าซูมตะโกนเสียงดังออกมาจากกระเป๋าว่า นายๆๆๆๆ !! ใช้ผมสิ อ้าวเจ้าซูม ! นายมีดีอะไรไหนลองบอกมาสิ จะให้เราใช้เจ้าน่ะ เขาย้อนถามเจ้าซูม เจ้าซูมร้องบอกออกมาจากกระเป๋าอย่างโอ้อวดทันใดว่า แหมนาย.. ผมน่ะสามารถทำให้นายเห็นนกที่บินอยู่ไกลๆฝูงนั้นได้เลยนะ ไม่เพียงแค่ทำให้นายมองเห็นนกฝูนนั้นอย่างเดียว ผมยังสามารถทำให้นายเห็นท่วงท่าและลีลาการบินอันงดงามของพวกมัน มิหนำซ้ำนายอาจจะเห็นพวกมันบินไปคุยกันไปก็ได้เลยนะ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ไกลจนสายตาของนายมองเห็นพวกมันแค่จุดเล็กๆ เอ้า ! งั้นตกลงเราจะใช้เจ้า เจ้าซูม เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าใกล้ก็ทำหน้าจ๋อย เพราะตอนนี้มันรู้แล้วว่าความสามารถของเจ้าซูมนั้นมันไม่สามารถทำได้ ว่าแล้วนายของมันก็ปลดเจ้าใกล้ออกจากกล้องของเขาแล้วพลันหยิบเจ้าซูมขึ้นมาประกอบใหม่ แล้วเขาก็บรรจงถ่ายรูปฝูงนกเหล่านั้นอีกครั้ง เจ้าซูมทำหน้าที่ของมันได้ดีจนได้รับคำชมเชยเช่นเดียวกับเจ้าใกล้ อืม..เจ้านี่ทำให้ข้ามองเห็นฝูงนกเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน ลีลาและท่วงท่าของพวกมันช่างพริ้วไหวไปกับสายลมดีแท้ นี่ถ้าไม่มีเจ้าก็คงไม่เห็นเรื่องราวสวยงามเหล่านี้นะ เขาพูดกับเจ้าซูม

เวลาผ่านไปเจ้าพระอาทิตย์ลูกโตจอมขี้อายก็เริ่มฉายแสงอันงดงามทอดไปตามแนวเขา และก้อนเมฆปุกปุยที่ปรกคลุมบางส่วนของภูเขาเอาไว้ ขณะที่ทุ่งหญ้าที่พริ้วไหวก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองไปตามแสงของดวงอาทิตย์ ฝูงนกออกจารังเพื่อหากินยามเช้าบินผ่านไปมาเห็นเป็นเงาดำๆ เวลาที่พวกมันบินผ่านดวงอาทิตย์ เจ้านายของพวกมันก็เกิดแรงบัญดาลใจขึ้นอีกครั้ง เขาอยากจะเก็บเอาภาพทั้งหมดนี้ไว้ในคราวเดียวกัน เขาจึงถามเจ้าซูมว่า นี่เจ้าซูม เจ้าเห็นไหมแนวภูเขาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตานั่นน่ะ ทุ่งหญ้าที่อาบไปด้วยแสงทองของพระอาทิตย์ยามเช้าอันสวยงามเนี่ยเจ้าเห็นไหม เจ้าซูมตอบว่า ผมไม่เห็นเลยนาย ถ้านายอยากให้ผมเห็นทั้งหมดนี่ นายต้องถอยไปไกลหลายกิโลเลยล่ะว่าแล้วก็ถึงทีของเจ้ากว้างมันรอมานานมากมันจึงตะโกนบอกออกมาว่า นาย ! ใช้ผมสิ ผมสามารถทำให้นายน่ะมองเห็นทั้งหมดนี่ได้ในเวลาเดียวกันเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าที่สะบัดไปมาตามแรงลมหรือภูเขาที่ทอดยาวเป็นแนวสุดลูกหูลูกตา หรือแม้แต่พระอาทิตย์ที่กำลังสาดแสงส่องไปทั่วทุกที่ ผมสามารถทำให้นายเห็นทั้งหมดนี่ได้เลยนะ ว่าแล้วเขาก็ปลดเจ้าซูมเก็บเข้าระเป๋าแล้วเอาเจ้ากว้างออกมาแทน ว่าแล้วเขาก็บรรจงกดชัดเตอร์อย่างไม่รอช้าอีกครั้ง ภาพที่ได้นั้นสวยงามมากเขาเห็นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ภูเขา เมฆ ท้องฟ้า ฝูงนก และทุ่งหญ้า ทุกอย่างรวมอยู่ในภาพเดียวกันทำให้เป็นเป็นมุมมองใหญ่ งานนี้เจ้ากว้างทำหน้าที่ดีได้ไม่มีบิดพริ้วและมันก็ได้รับคำชมจากนายของมันดังเช่นเจ้า ใกล้และเจ้าซูม

พระอาทิตย์เริ่มสาดแสงแรงขึ้นตามเวลาที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกตัวว่าสายแล้วจึงเก็บข้าวของพร้อมที่จะลงจากยอดเขา จากนั้นก็พลันถอดเจ้ากว้างออกจากกล้องคู้ใจของเขาลงไปเก็บในกระเป๋า และเขาก็พูดว่า เจ้าทั้งสามน่ะเลิดทะเลาะกันได้แล้ว เพราะไม่มีใครทำได้อย่างใครและไม่มีใครเก่งหรือพิเศษกว่าใคร ทุกคนมีมุมมองของตัวเองซึ่งเราต้องให้ความเคารพต่อมุมมองของเขานั้นๆ มุมมองที่แตกต่างไม่ได้แสดงว่าใครเก่งกว่าใคร แต่มันทำให้เราเห็นกันคนละอย่าง ใกล้อาจจะทำให้คุณมองเห็นรายละเอียดเล็กๆที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ไกลคุณอาจจะต้องซูมมันเข้าไปเพื่อจะได้เห็นชัดๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ข้างหน้า แต่บางครั้งเราก็ต้องถอยออกมาดูมุมกว้างเพื่อที่จะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดของทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ส่วเราจะเลือกมองมุมไหนนั้นคงต้องแล้วแต่สถานะการที่เหมาะสม หากคนเรารู้จักใช้เลนส์ทั้งสามอย่างนี้อย่างเหมาะสมแล้ว มันก็จะสามารถทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆอย่างได้มากขึ้น และเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น

by Kohnie ^.^ Be7thsense